จากทริปครอบครัวสู่ธุรกิจล้านล้าน: เรื่องเล่าตลาดรถตู้เช่าไทยที่ SP SMART VAN เผยให้เห็น

 

 

ยังจำได้ไหมครับเมื่อตอนเด็กๆ ทุกครั้งที่ครอบครัวจะไปเที่ยวต่างจังหวัด พ่อแม่มักจะปวดหัวกับเรื่องการเดินทาง บางครั้งรถยนต์ส่วนตัวเล็กไป ใส่คนไม่พอ บางครั้งขับรถไกลแล้วเหนื่อย แต่วันนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว เพราะตลาดรถตู้เช่าไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่กลายเป็นวิถีชีวิตใหม่ของคนไทยไปแล้ว

เรื่องเล่าจากตัวเลขที่น่าตื่นเต้น

ใครจะคิดว่าธุรกิจที่เริ่มต้นจากความต้องการง่ายๆ ในการเดินทางของครอบครัว จะกลายเป็นตลาดมูลค่าหลายหมื่นล้านบาท ตัวเลขล่าสุดชี้ให้เห็นว่าในปี 2568 ตลาดรถเช่าในไทยจะมีมูลค่าถึง 55,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 51,000 ล้านบาทในปี 2566

สิ่งที่น่าสนใจคือ SP SMART VAN บริษัทที่ให้บริการรถตู้เช่าพร้อมคนขับ ได้เล่าให้ฟังว่าตลาดรถตู้เช่าคาดว่าจะครอง 10-15% ของตลาดรถเช่าทั้งหมด ฟังดูอาจจะน้อย แต่ถ้าคิดเป็นตัวเลข นั่นคือ 5,500-8,250 ล้านบาทเลยทีเดียว!

เมื่อการเดินทางกลายเป็นไลฟ์สไตล์

การเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดในช่วงหลังโควิดคือ คนไทยเริ่มให้ความสำคัญกับการเดินทางและการใช้เวลาร่วมกันมากขึ้น ไม่ใช่แค่ครอบครัวเท่านั้น แต่ยังรวมถึงกลุ่มเพื่อน กลุ่มเพื่อนร่วมงาน หรือแม้แต่บริษัทต่างๆ ที่จัดทริปพนักงานเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดี

จากประสบการณ์ของลูกค้าหลายๆ คนที่เล่าให้ฟัง การเช่ารถตู้พร้อมคนขับทำให้ทริปสนุกขึ้นมาก ทุกคนในรถสามารถคุยกัน เล่นเกม ดูหนัง หรือแม้แต่พักผ่อนไปด้วยกันตลอดทาง โดยไม่ต้องมีใครต้องเครียดกับการขับรถหรือหาเส้นทาง

ความเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้จริง

ตลาดนี้ไม่ได้เติบโตเฉพาะจากการท่องเที่ยวเพื่อการพักผ่อนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการเดินทางเพื่อธุรกิจด้วย งานประชุมสัมมนา การจัดงานแสดงสินค้า หรือแม้แต่การเดินทางเพื่อเข้าร่วมอีเวนต์ต่างๆ ล้วนต้องอาศัยบริการรถตู้เช่า

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ กลุ่มธุรกิจ MICE (การประชุม การท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล การจัดงานแสดงสินค้า และนิทรรศการ) ที่กลับมาคึกคักหลังช่วงโควิด กลุ่มนี้มีกำลังซื้อสูงและต้องการบริการที่มีคุณภาพ ทำให้เป็นตลาดที่น่าสนใจมากสำหรับผู้ประกอบการรถตู้เช่า

เบื้องหลังความสำเร็จของ SP SMART VAN

จากการพูดคุยกับ SP SMART VAN พวกเขาเล่าให้ฟังว่า ความสำเร็จในธุรกิจนี้ไม่ได้มาจากการมีรถเยอะๆ เท่านั้น แต่อยู่ที่การสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า การฝึกอบรมคนขับให้เป็นมากกว่าแค่คนขับรถ แต่เป็นผู้ช่วยเหลือและให้คำแนะนำระหว่างทางด้วย

ลูกค้าหลายคนกลับมาใช้บริการซ้ำเพราะคนขับไม่ได้แค่ขับรถให้ แต่ยังแนะนำร้านอาหารดีๆ จุดถ่ายรูปสวยๆ หรือแม้แต่เล่าเรื่องราวท้องถิ่นที่น่าสนใจระหว่างทาง สิ่งเหล่านี้ทำให้การเดินทางกลายเป็นมากกว่าแค่การไปจากจุด A ไปยังจุด B

ความท้าทายในยุคดิจิทัล

แต่เรื่องราวไม่ได้จบลงแค่นั้น เพราะตอนนี้ตลาดเริ่มมีการแข่งขันสูงขึ้น แพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ เข้ามาทำให้ลูกค้าสามารถเปรียบเทียบราคาและบริการได้ง่ายขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการต้องปรับตัวให้ทันกับยุคสมัย

SP SMART VAN เล่าให้ฟังว่า พวกเขาต้องลงทุนในระบบจองออนไลน์ การปรับปรุงบริการให้สะดวกขึ้น และการสร้างความแตกต่างที่ลูกค้าสัมผัสได้จริง เพราะในยุคที่ลูกค้ามีทางเลือกมากมาย การสร้างความประทับใจและความไว้วางใจจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

อนาคตที่เต็มไปด้วยโอกาส

เมื่อมองไปข้างหน้า ตลาดรถตู้เช่าในไทยยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก โดยเฉพาะเมื่อการท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัวเต็มที่ และคนไทยเริ่มให้ความสำคัญกับการใช้ชีวิตและการเดินทางมากขึ้น

สำหรับใครที่กำลังคิดจะลงทุนในธุรกิจนี้ คำแนะนำจาก SP SMART VAN คือ อย่าคิดแค่เรื่องรถและราคา แต่ให้คิดถึงประสบการณ์ที่จะมอบให้ลูกค้า เพราะในตลาดที่เติบโตนี้ ผู้ที่จะประสบความสำเร็จคือคนที่สามารถสร้างความผูกพันและความประทับใจให้กับลูกค้าได้

ราคาเช่ารถตู้พร้อมคนขับ: คู่มือครบครันสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางสะดวกสบาย

การเช่ารถตู้พร้อมคนขับกลายเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับการเดินทางในประเทศไทย โดยเฉพาะสำหรับกลุ่มคนที่ต้องการความสะดวกสบายและไม่ต้องกังวลเรื่องการขับรถเอง บทความนี้จะนำเสนอข้อมูลราคาและรายละเอียดการบริการอย่างครบถ้วน เพื่อให้ผู้อ่านสามารถวางแผนการเดินทางได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ภาพรวมราคาในตลาดปัจจุบัน

ตลาดการเช่ารถตู้พร้อมคนขับในปี 2025 มีการแข่งขันสูง ทำให้ผู้บริโภคได้รับประโยชน์จากราคาที่หลากหลาย ราคาเริ่มต้นสำหรับการเช่ารถตู้พร้อมคนขับอยู่ที่ประมาณ 1,800-2,000 บาทต่อวัน ขึ้นอยู่กับประเภทของรถและระยะทางในการเดินทาง บริษัทผู้ให้บริการส่วนใหญ่จะกำหนดเวลาการให้บริการที่ 9-10 ชั่วโมงต่อวัน และจะมีการคิดค่าล่วงเวลาเพิ่มเติมหากเกินเวลาที่กำหนด

ราคาที่แตกต่างกันไปนี้ไม่ได้เป็นเพียงตัวเลขเปล่าๆ แต่สะท้อนถึงคุณภาพการบริการ ประสบการณ์ของผู้ให้บริการ และความหลากหลายของรถที่มีให้เลือก การทำความเข้าใจราคาเหล่านี้จะช่วยให้คุณเลือกบริการที่เหมาะสมกับงบประมาณและความต้องการของคุณได้อย่างแม่นยำ

ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อราคา

ประเภทและรุ่นของรถตู้

รถตู้ Toyota Commuter ซึ่งเป็นรุ่นยอดนิยมในตลาด มีราคาเช่าพร้อมคนขับอยู่ระหว่าง 2,500-5,279 บาทต่อวัน ขึ้นอยู่กับปีที่ผลิตและสภาพของรถ รถตู้ VIP ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากกว่า เช่น ที่นั่งแบบ 8 ที่นั่ง จะมีราคาสูงขึ้นอยู่ที่ 2,200-2,500 บาทต่อวัน รถตู้หรูหราอย่าง Mercedes-Benz V-Class หรือ Toyota Alphard จะมีราคาสูงกว่าตามระดับความหรูหราที่เพิ่มขึ้น

ระยะเวลาและระยะทางการเดินทาง

การเช่ารถตู้รายวันจะมีราคาแตกต่างจากการเช่ารายเดือน โดยการเช่ารายเดือนจะมีราคาที่คุ้มค่ากว่า เช่น 53,500-85,600 บาทต่อเดือน ระยะทางการเดินทางยังเป็นปัจจัยสำคัญ เนื่องจากการเดินทางต่างจังหวัดจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น ค่าที่พักคนขับ 500-2,000 บาทต่อคืน ขึ้นอยู่กับจำนวนวันที่เดินทาง

เปรียบเทียบราคาจากผู้ให้บริการชั้นนำ

บริษัทระดับพรีเมียม

Exclusive Car Rental เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการชั้นนำที่เสนอราคา 3,210-5,253 บาทต่อวัน สำหรับรถตู้ Toyota Commuter รุ่นใหม่ พร้อมบริการ 9-10 ชั่วโมง และค่าล่วงเวลา 321-535 บาทต่อชั่วโมง บริษัทนี้มีจุดเด่นในเรื่องของความน่าเชื่อถือและการบริการลูกค้าที่เป็นมืออาชีพ โดยมีการตรวจสอบสภาพรถอย่างสม่ำเสมอ

บริษัทระดับกลาง

ECOCAR rent-a-car เสนอราคาเช่ารถตู้พร้อมคนขับที่ 4,922-5,279 บาทต่อวัน สำหรับการเช่า 7 วันขึ้นไป และ 64,200 บาทต่อเดือน บริษัทนี้มีจุดเด่นในเรื่องของราคาที่แข่งขันได้และการให้บริการที่ครอบคลุมทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด

ผู้ให้บริการทั่วไป

แสนดีเซอร์วิส เสนอราคาเริ่มต้นที่ 1,500 บาทสำหรับการบริการพื้นฐาน และ 2,500-3,000 บาทต่อวันสำหรับการทำทัวร์ต่างจังหวัด การเลือกใช้บริการจากผู้ให้บริการระดับนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีงบประมาณจำกัดแต่ยังต้องการความปลอดภัยในการเดินทาง

เงื่อนไขและค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

ค่าใช้จ่ายที่ไม่รวมในราคาเช่า

ผู้เช่าต้องรับผิดชอบค่าน้ำมัน ค่าทางด่วน และค่าที่จอดรถตามจริง ค่าใช้จ่ายเหล่านี้อาจเพิ่มขึ้นได้อย่างมากขึ้นอยู่กับเส้นทางและระยะทางการเดินทาง โดยเฉพาะการเดินทางต่างจังหวัดที่อาจมีค่าน้ำมันไป-กลับตั้งแต่ 500-7,000 บาท ขึ้นอยู่กับระยะทาง

เงื่อนไขเวลาและการล่วงเวลา

การบริการมาตรฐานจะให้บริการ 9-10 ชั่วโมงต่อวัน โดยเริ่มนับตั้งแต่เวลารับจนถึงเวลาส่ง หากเกินเวลาที่กำหนด จะมีการคิดค่าล่วงเวลา 200-535 บาทต่อชั่วโมง ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการและประเภทรถ สำหรับการเดินทางที่เริ่มก่อน 07:00 น. หรือสิ้นสุดหลัง 21:00 น. อาจมีค่าบริการพิเศษเพิ่มเติม

คำแนะนำในการเลือกบริการ

การเปรียบเทียบราคาและคุณภาพ

การเลือกบริษัทเช่ารถตู้ไม่ควรพิจารณาเพียงราคาเท่านั้น แต่ต้องดูประสบการณ์และชื่อเสียงของบริษัท รวมถึงรีวิวจากลูกค้าที่ใช้บริการมาก่อน บริษัทที่มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี เช่น VANNUMBER 1 มักจะให้ความมั่นใจในเรื่องความปลอดภัยและการบริการที่มีมาตรฐาน

การตรวจสอบเงื่อนไขการประกันภัย

ผู้ให้บริการที่น่าเชื่อถือควรมีการประกันภัยชั้น 1 ครอบคลุมทั้งตัวรถ ผู้โดยสาร และบุคคลที่สาม การมีประกันการเดินทางแบบครบถ้วนจะช่วยลดความเสี่ยงและให้ความมั่นใจในการใช้บริการ

การจองล่วงหน้า

การจองรถตู้ล่วงหน้าอย่างน้อย 2-4 สัปดาห์จะช่วยให้ได้รถรุ่นที่ต้องการและราคาที่ดีกว่า โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลหรือวันหยุดยาว ที่มีการเช่ารถเพิ่มขึ้นอย่างมาก

สรุป

ราคาเช่ารถตู้พร้อมคนขับในประเทศไทยมีความหลากหลายตั้งแต่ 1,800-5,300 บาทต่อวัน ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น ประเภทรถ ระยะเวลา และผู้ให้บริการ การเลือกใช้บริการควรพิจารณาทั้งราคาและคุณภาพ โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือของผู้ให้บริการ การวางแผนและการจองล่วงหน้าจะช่วยให้ได้รับบริการที่ดีที่สุดในราคาที่เหมาะสม พร้อมความสบายใจตลอดการเดินทาง

แคลเซียมเสริมกระดูกตัวช่วยสำคัญที่ทำให้กระดูกแข็งแรง

แคลเซียมเสริมกระดูก เป็นสารอาหารที่มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อการสร้างความแข็งแรงให้กับกระดูกในทุกช่วงวัย ไม่เพียงแต่ช่วยเสริมสร้างมวลกระดูกเท่านั้น แต่ยังมีส่วนช่วยเร่งกระบวนการฟื้นตัวของกระดูกในกรณีที่เกิดการบาดเจ็บหรือกระดูกหักอีกด้วย

ความสำคัญของแคลเซียมต่อกระดูก

แคลเซียมเป็นแร่ธาตุที่สำคัญและจำเป็นอย่างมากในร่างกาย แคลเซียมเป็นแร่ธาตุที่ร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์ขึ้นมาเองได้และร่างกายก็ยังต้องการแคลเซียมเป็นจำนวนมากในการเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรงอยู่เสมอ โดยส่วนใหญ่แคลเซียมจะอยู่ในกระดูกและฟัน และยังมีบทบาทสำคัญในการทำงานของกล้ามเนื้อ ระบบประสาท และหัวใจอีกด้วย การขาดแคลเซียมในระยะยาวจะทำให้ร่างกายดึงแคลเซียมออกมาจากกระดูก ทำให้กระดูกอ่อนแอบอบบางลง เสี่ยงต่อการแตกหักได้ง่าย ดังนั้นการบริโภคแคลเซียมเสริมกระดูกจึงเป็นการลงทุนระยะยาวที่คุ้มค่า

แคลเซียมเสริมกระดูกหัก ช่วยในการฟื้นฟูอย่างไร

เมื่อกระดูกได้รับความเสียหายหรือได้รับบาดเจ็บ การได้รับแคลเซียมเสริมกระดูก อย่างเหมาะสมจะช่วยให้ร่างกายกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อกระดูกใหม่ได้รวดเร็วแล้วแข็งแรงมากขึ้น เพราะในช่วงที่ร่างกายกำลังซ่อมแซม ร่างกายจะต้องการแคลเซียมมากขึ้นเป็นพิเศษ และควรรับประทานแคลเซียมควบคู่กับวิตามินดีเพื่อให้การดูดซึมของแคลซียมดีมากขึ้นและยังทำให้กระดูกมีความแข็งแรงและทนทานมากขึ้น

ปัจจัยที่ทำให้ร่างกายเสี่ยงในการขาดแคลเซียม

  • การบริโภคแคลเซียมไม่เพียงพอ
  • การดื่มแอลกอฮอล์
  • ออกกำลังกายไม่เพียงพอ
  • ดื่มกาแฟเกินขนาด
  • ขาดฮอร์โมนเอสโตรเจน
  • เป็นคนร่างเล็ก
  • คนในครอบครัวมีประวัติเป็นโรคกระดูกพรุน
  • กระดูกหักมาก่อน

อาหารและผลิตภัณฑ์อาหารที่ช่วยในการเสริมสร้างกระดูก

  1. อาหารที่มีแคลเซียมสูง

  • นมต่าง ๆ เช่น นมวัว นมถั่วเหลือง
  • โยเกิร์ต หรือ ชีส
  • ผักใบเขียว เช่น ผักโขม คะน้า บรอกโคลี
  • ปลาตัวเล็กที่สามารถกินได้ทั้งตัว
  • ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง เช่น เต้าหู้
  • ถั่วเปลือกแข็งต่าง ๆ เช่น งา เมล็ดแอลมอนด์
  1. ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม

  • แคลเซียมคาร์บอเนตควรรับประทานพร้อมอาหารเพื่อให้การดูดซึมดีขึ้น
  • แคลเซียมซิเตรต จะดูดซึมได้ดีที่สุดตอนท้องว่าง เหมาะกับผู้หญิง
  • แคลเซียมผสมวิตามินดีเพื่อการดูดซึมที่ดีขึ้น

ปริมาณแคลเซียมที่ต้องการในแต่ละช่วงวัย

  • วัยรุ่น 9 – 18 ปี ควรได้รับประมาณแคลเซียม 1300 มิลลิกรัมต่อวัน
  • ผู้ใหญ่ 19 – 50 ปี ควรได้รับแคลเซียม 1000 มิลลิกรัมต่อวัน
  • ผู้สูงอายุ 50 ปีขึ้นไป ควรได้รับแคลเซียม 1200 มิลลิกรัมต่อวัน
  • คนที่ตั้งครรภ์และให้นมบุตร ควรได้รับแคลเซียม 1000 – 1300 มิลลิกรัมต่อวัน

สัญญาณเตือนว่าอาจจะกำลังขาดแคลเซียม

  • เป็นตะคริวบ่อย
  • ฟันผุง่าย
  • กระดูกหักหรือเปราะง่าย
  • มีอาการชาตามมือและเท้า
  • มีอาการอ่อนล้าโดยไม่ทราบสาเหตุ

สรุป

การดูแลกระดูกให้แข็งแรงควรเริ่มตั้งแต่วันนี้ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกรับประทานอาหารที่มีแคลเซียมสูง การเสริมด้วย แคลเซียมเสริมกระดูก หรือการใช้ แคลเซียมเสริมกระดูกหัก ในผู้ที่กำลังอยู่ในช่วงฟื้นฟูกระดูกหัก เพื่อสุขภาพที่ดีในอนาคตลดความเสี่ยงในการเกิดโรคกระดูกพรุน

 

แชร์กลยุทธ์ในการเริ่มธุรกิจขายอุปกรณ์ การแพทย์

ในยุคที่เทคโนโลยีก้าวหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง อุตสาหกรรมการแพทย์ก็ไม่ได้ตกอยู่ข้างหลัง อุปกรณ์การแพทย์ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการรักษาพยาบาลและการดูแลสุขภาพได้พัฒนาอย่างมาก จากเครื่องมือพื้นฐานไปจนถึงเทคโนโลยีสุดล้ำสมัย การขายอุปกรณ์ การแพทย์จึงเป็นธุรกิจที่ท้าทายแต่เต็มไปด้วยโอกาส สำหรับใครที่กำลังสนใจอยากทุนเกี่ยวกับธุรกิจประเภทนี้วันนี้เราจะพาทุกท่านไปดูกลยุทธ์และความท้าทายในการขายอุปกรณ์การแพทย์ในยุคดิจิทัล

 

กลยุทธ์ในการขายอุปกรณ์ การแพทย์

  1. เน้นคุณภาพและความปลอดภัย: อุปกรณ์การแพทย์ต้องได้รับการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และผู้ขายต้องรับประกันคุณภาพและความปลอดภัยของสินค้า เนื่องจากผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีผลต่อชีวิตและสุขภาพของผู้คน
  2. การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการขาย: การมีแพลตฟอร์มออนไลน์สำหรับการจัดจำหน่ายเป็นสิ่งจำเป็น ระบบ eCommerce ช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงและสั่งซื้อสินค้าได้อย่างง่ายดาย รวมถึงการใช้ AI และ Big Data เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมการซื้อและปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้า
  3. การฝึกอบรมและการสนับสนุนหลังการขาย: ผู้ขายควรมีบริการฝึกอบรมการใช้งานสำหรับอุปกรณ์ที่ซับซ้อนและมีบริการหลังการขายที่ดี เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถใช้งานอุปกรณ์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและปลอดภัย

 

ความท้าทายในการขายอุปกรณ์ การแพทย์

  1. กฎหมายและข้อบังคับ: อุปกรณ์การแพทย์ถูกควบคุมอย่างเข้มงวดโดยกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง ผู้ขายต้องปฏิบัติตามมาตรฐานเหล่านี้อยู่เสมอ
  2. การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว: เทคโนโลยีในอุตสาหกรรมการแพทย์พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว อุปกรณ์ที่ขายอาจถูกแทนที่ด้วยอุปกรณ์รุ่นใหม่ ผู้ขายต้องติดตามการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เพื่อจะได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพให้แก่ลูกค้า
  3. การแข่งขันสูง: ตลาดขายอุปกรณ์ การแพทย์มีการแข่งขันสูง ผู้ขายต้องมีความโดดเด่นในด้านนวัตกรรม คุณภาพ และบริการเพื่อดึงดูดและรักษาฐานลูกค้า

 

แนวโน้มในอุตสาหกรรมอุปกรณ์การแพทย์

  1. การบูรณาการกับเทคโนโลยีดิจิทัล: มีการใช้ IoT ระบบ AI และเทคโนโลยี Blockchain เพื่อปรับปรุงคุณภาพและความปลอดภัยของอุปกรณ์การแพทย์ เช่น ใช้ AI ในการวินิจฉัยโรคอัตโนมัติหรือการติดตามสุขภาพผู้ป่วยแบบเรียลไทม์
  2. การพัฒนาอุปกรณ์แบบสวมใส่ได้: อุปกรณ์แบบสวมใส่ได้เช่น smartwatch และ fitness trackers กำลังถูกพัฒนาเพื่อติดตามสุขภาพร่างกายของผู้ใช้ ตั้งแต่การวัดอัตราการเต้นของหัวใจไปจนถึงการตรวจจับระดับออกซิเจนในเลือด
  3. โทรแพทย์และการดูแลสุขภาพจากระยะไกล: ในยุค COVID-19 โทรแพทย์ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง ทำให้มีการใช้อุปกรณ์ที่ช่วยให้การดูแลรักษาสามารถทำได้จากระยะไกล อาทิ เครื่องวัดความดันเลือดที่ใช้ทางไกล

 

เทคโนโลยีล่าสุดในอุปกรณ์การแพทย์

  1. เครื่องมือผ่าตัดหุ่นยนต์: เทคโนโลยีหุ่นยนต์ได้ปฏิวัติวงการการผ่าตัดด้วยการช่วยให้แพทย์สามารถทำการผ่าตัดที่แม่นยำและมีความเสี่ยงต่ำลง เช่น Da Vinci Surgical System
  2. อุปกรณ์ฝังในร่างกายที่มีความสามารถในการเชื่อมต่อ: อุปกรณ์เช่นเครื่องกระตุ้นหัวใจและโปรแกรมจำลองสมองมีการพัฒนาให้สามารถติดตามและปรับการทำงานผ่านแอพพลิเคชั่นมือถือ
  3. วัสดุชีวภาพและปริ้นท์ 3 มิติ: การใช้วัสดุชีวภาพและเทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติเพื่อสร้างอวัยวะเทียมและเนื้อเยื่อบำบัด เช่น การสร้างกระดูกหรือกระเพาะปัสสาวะเทียม

 

การขายอุปกรณ์ การแพทย์ไม่เพียงแต่ต้องการความเข้าใจในเทคโนโลยีและกฎหมายเท่านั้น แต่ยังต้องการการเข้าถึงการดูแลลูกค้าอย่างเต็มที่ ทั้งนี้เพื่อให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์ที่เสนอไปนั้นไม่เพียงแต่ตอบโจทย์ทางการแพทย์ แต่ยังรวมถึงการส่งมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้ ด้วยการรับรู้ถึงความต้องการของตลาดและการมีบริการที่เหนือกว่า ธุรกิจขายอุปกรณ์การแพทย์สามารถเติบโตและพัฒนาไปสู่อนาคตได้อย่างมั่นคง

ผลิตภัณฑ์แคลเซียมเสริมกระดูกของแคลที (CalT)

แคลเซียมเสริมกระดูก แคลที (CalT) เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่อุดมไปด้วยแคลเซียมคุณภาพสูง ซึ่งมีการพัฒนาขึ้นเพื่อช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง ช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงของการเกิดโรคกระดูกพรุน เหมาะสำหรับทุกคนที่ต้องการดูแลสุขภาพ

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารโปรตีนจากพืช ผสมวิตามินรวมและแคลเซียมข้าวโพด

เสริมสร้างฟื้นฟูกล้ามเนื้อ กระดูกและข้อ มีส่วนช่วยลดการเกิดตะคริว รสชาติหวานแต่ไม่มีน้ำตาล มีวิตามินรวม 10 ชนิด ส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุให้แข็งแรง

แมกนีเซียมซิงค์ พลัส วิตามินรวม

มีส่วนช่วยในเรื่องการทำงานของสมอง ช่วยให้ร่างกายตื่นตัว บำรุงเส้นผมและเล็บ ช่วยในการทำงานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อร่วมกับแคลเซียม ลดการเกิดตะคริวจากระดับของแมกนีเซียมต่ำได้

แคลเซียม แอล-ทรีโอเนต พลัส แมกนีเซียม

มีส่วนช่วยเสริมสร้างกระดูกอ่อนในข้อกระดูก และเสริมสร้างมวลกระดูกทั่วร่างกาย แคลเซียมที่สกัดมาจากวิตามินซีในแป้งข้าวโพด ละลายน้ำได้ดี สามารถดูดซึมเข้าเซลล์เนื้อเยื่อร่างกายได้โดยไม่ต้องอาศัยวิตามินดี และกรดในกระเพาะอาหารเหมือนแคลเซียมทั่วไป ม่ก่อสารตกค้างในร่างกาย ไม่ทำให้เป็นนิ่ว และไม่ทำให้ท้องผูก

 

คุณสมบัติเด่นของแคลเซียมเสริมกระดูก แคลที (CalT)

  • ช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน โดยแคลเซียมเสริมกระดูกจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูก ช่วยลดโอกาสในการเกิดกระดูกหักหรือกระดูกพรุน โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่มีความเสี่ยงและกลุ่มผู้สูงอายุ
  • เสริมการทำงานของวิตามินดี แคลเซียมมีส่วนผสมของวิตามินดี3 ซึ่งช่วยในการดูดซึมแคลเซียมได้ดีขึ้น และช่วยให้กระดูกมีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น
  • แคลเซียมดูดซึมได้ดี ผลิตภัณฑ์แคลเซียมเสริมกระดูกของแคลที ประกอบไปด้วยแคลเซียมที่มีความสามารถในการดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

หลักการดูดซึมแคลเซียมเข้าสู่ร่างกาย

การดูดซึมแคลเซียมนั้น เราควรทานอาหารหรือเลือกผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีส่วนผสมของวิตามินดี เพื่อช่วยเพิ่มการดูดซึมแคลเซียม เพราะวิตามินดีช่วยให้ลำไส้ดูดซึมแคลเซียมได้ดีขึ้น และในการดูดซึมของแคลเซียมนั้นขึ้นอยู่กับชนิดของแคลเซียมที่รับประทานด้วย โดยแคลเซียมแต่ละชนิดจะถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้แตกต่างกัน ทำให้ร่างกายได้รับปริมาณแคลเซียมที่ต่างกันด้วย

 

สรุป

แคลเซียมเป็นสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย มีส่วนช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง โดยคนเราต้องการแคลเซียมสุทธิจากอาหารที่ทานทุกๆวัน ประมาณ 800-1,200 มิลลิกรัมต่อวัน เพื่อให้มีอัตราการเสริมสร้างมวลกระดูกมากกว่าอัตราการสลายของมวลกระดูก ยิ่งในผู้สูงอายุที่มีปัญหาเรื่องกระดูกพรุน กระดูกบาง มวลกระดูกน้อย หรือ ในบางรายมีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นโรคกระดูกพรุนด้วยแล้ว ยิ่งต้องทานแคลเซียมเสริมมากขึ้น

ท่าออกกำลังกายช่วยกระชับต้นแขนสำหรับสาวๆ ที่ขาดความมั่นใจ

ปัญหาต้นแขนไม่กระชับเป็นเรื่องที่พบได้บ่อยและอาจทำให้หลายคนรู้สึกไม่มั่นใจในบางครั้งโดยเฉพาะสาวๆ ที่เวลาต้องใส่เสื้ออาจจะทำให้ขาดความมั่นใจ การกระชับต้นแขนสามารถทำได้หลายวิธีไม่ว่าจะด้วยวิธีทางการแพทย์หรือการออกกำลังกาย

กระชับต้นแขน

 

ปัญหาต้นแขนไม่กระชับเป็นเรื่องที่พบได้บ่อยและอาจทำให้หลายคนรู้สึกไม่มั่นใจในบางครั้งโดยเฉพาะสาวๆ ที่เวลาต้องใส่เสื้ออาจจะทำให้ขาดความมั่นใจ การกระชับต้นแขนสามารถทำได้หลายวิธีไม่ว่าจะด้วยวิธีทางการแพทย์หรือการออกกำลังกาย สำหรับสาวๆ คนที่ไหนอยากลองลดต้นแขนด้วยวิธีออกกำลังกายวันนี้มีท่าง่ายๆ มาฝากกันครับ

 

1. ท่าออกกำลังกายช่วยกระชับต้นแขน

  • ท่าบริหารกล้ามเนื้อทริเซปส์ด้วยดัมเบลล์ (Tricep Dips)
  • ใช้เก้าอี้หรือม้านั่ง นั่งลงโดยวางมือทั้งสองข้างลำตัว
  • เลื่อนก้นออกจากเก้าอี้เล็กน้อย โดยให้มือทั้งสองยังยึดเก้าอี้
  • ค่อยๆ ลดร่างกายลงจนแขนทำมุมประมาณ 90 องศา
  • ยกตัวกลับขึ้นมา ทำซ้ำ

 

2. ท่าตบปีก (Arm Circles)

  • ยืนตรงแล้วยกแขนทั้งสองข้างให้ตรงกับพื้น
  • เริ่มวนแขนเล็กๆ ทั้งในทิศทางขวางนาฬิกาและทวนนาฬิกา
  • ทำแบบนี้สลับกันประมาณ 1 นาทีต่อทิศทาง
  • ท่าบริหารกล้ามเนื้อไบเซปส์ด้วยดัมเบลล์ (Bicep Curls)
  • ยืนหรือนั่งโดยหลังตรง ถือดัมเบลล์ในแต่ละมือ
  • งอแขนขึ้นจนดัมเบลล์เกือบจะถึงไหล่ แล้วค่อยๆ ลดลงช้าๆ
  • ทำซ้ำ

 

3. ท่าดันพื้นปรับระดับ (Incline Push-Ups)

  • วางมือทั้งสองบนพื้นผิวที่สูงกว่าระดับพื้นเช่นเก้าอี้หรือม้านั่ง
  • ทำท่าดันพื้นโดยเน้นให้แรงกดเข้าที่แขนและหน้าอก
  • ทำซ้ำ

 

4. ท่าบริหารกล้ามเนื้อทริเซปส์ด้วยเชือก (Tricep Rope Pull-Down)

  • ใช้เครื่องบริหารที่มีเชือก ยืนหันหน้าเข้าหาเครื่อง
  • ดึงเชือกลงมาโดยเน้นที่กล้ามเนื้อทริเซปส์
  • ทำซ้ำ

 

สำหรับสาวๆ คนไหนที่กำลังเจอปัญหาต้นแขนไม่กระชับ หมดความมั่นใจเวลาใส่เสื้อผ้า ท่าออกกำลังกายกระชับต้นแขนที่เรานำมาฝากสามารถทำได้ง่ายๆ และทำได้ทุกที่ การทำท่าเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอและรวมกับการควบคุมอาหารและดูแลสุขภาพโดยรวมจะช่วยให้ต้นแขนของคุณกระชับและแข็งแรงขึ้นแน่นอน

การเลือกซื้อบ้าน ราชพฤกษ์ ให้ได้ตรงกับความต้องการของผู้อยู่อาศัยให้ได้มากที่สุด

ที่อยู่อาศัยโซนราชพฤกษ์ยังคงเป็นทำเลที่น่าจับตามองเพราะได้รับความนิยมต่อเนื่อง เพราะมีศักยภาพที่ดีทั้งตอนปัจจุบันและในอนาคต และยังมีโปรเจ็คของการพัฒนาการคมนาคมอยู่อย่างต่อเนื่องทำให้เดินทางไปไหนมาไหนได้สะดวก

 

           บ้าน ราชพฤกษ์ แถวบางใหญ่ เป็นอีกหนึ่งทำเลที่น่าจับตามองในโซนตะวันตกของกรุงเทพ ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของการลงทุนก็ถือเป็นทำเลศักยภาพที่ราคาจะขึ้นทุกปี หรือเป็นทำเลที่เหมาะแก่การอยู่อาศัย เนื่องจากเป็นย่านที่เชื่อมต่อไปยังสถานที่ต่างๆ มากมาย ทำให้เดินทางไปไหนมาไหนได้สะดวกสบาย เข้าเมืองก็ง่าย และไม่แออัดเท่าในเมือง ซึ่งถ้าใครที่ไม่ชอบความวุ่นวายแต่ชอบความสะดวกสบายในการเดินทาง บ้าน ราชพฤกษ์ โซนบางใหญ่สามารถตอบโจทย์เรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี ซึ่งถ้าใครที่กำลังสนใจและมีความคิดที่อยากจะซื้อบ้าน ราชพฤกษ์ อยู่หละก็อย่าลืมที่จะต้องพิจารณาถึงปัจจัยต่างๆ ดังต่อไปนี้ด้วยนะคะ

สิ่งที่ควรนำมาพิจารณาในการเลือกซื้อบ้าน ราชพฤกษ์ให้ได้ตรงกับความต้องการและไลฟ์สไตล์ของคุณ

  1. งบประมาณ กำหนดงบประมาณในการซื้อบ้านให้ชัดเจน เพื่อคัดเลือกบ้านที่อยู่ในราคาที่คุณจ่ายได้และไม่ทำให้เกิดปัญหาทางการเงินในอนาคต
  2. เลือกประเภทของที่อยู่อาศัย โดยที่คุณต้องตัดสินใจว่าต้องการบ้านแบบใด บ้านเดี่ยว, ทาวน์เฮ้าส์, หรือคอนโดมิเนียม ซึ่งที่อยู่แต่ละประเภทก็มีข้อดี และข้อเสียที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น บ้านเดี่ยวมีพื้นที่ใช้สอยและความเป็นส่วนตัวมากกว่าทาวน์เฮ้าส์ แต่อาจมีราคาสูงกว่าทาวน์เฮ้าส์ เป็นต้น
  3. ตำแหน่งที่ตั้งและการเข้าถึง พิจารณาตำแหน่งของบ้านในเขตบ้าน ราชพฤกษ์ว่าสามารถเข้าถึงสถานที่สำคัญ เช่น โรงเรียน, โรงพยาบาล, ศูนย์การค้า และการเดินทางสู่ใจกลางเมืองได้อย่างไร
  4. สิ่งอำนวยความสะดวกในชุมชน ตรวจสอบว่าชุมชนมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันหรือไม่ เช่น สวนสาธารณะ, สระว่ายน้ำ, ห้องฟิตเนส, รปภ. 24 ชม.
  5. ความปลอดภัย ความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญในการเลือกที่อยู่อาศัย ตรวจสอบระบบรักษาความปลอดภัยภายในชุมชน เช่น การมีรปภ. และกล้องวงจรปิด
  6. พิจารณาดูถึงอนาคตของพื้นที่ ที่เราสนใจ ว่ามีความเป็นไปได้ไหมที่จะมีแผนพัฒนาในอนาคตของพื้นที่นั้นๆ เพื่อคาดการณ์ถึงศักยภาพในการเพิ่มมูลค่าของทรัพย์สิน

การตัดสินใจซื้อบ้าน ราชพฤกษ์สักหลังหนึ่งนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แนะนำให้ทำการศึกษาข้อมูลและตรวจสอบสถานที่ด้วยตัวเองอย่างละเอียด รวมถึงปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญหรือตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ก่อนทำการตัดสินใจด้วยนะคะ เพื่อประโยชน์สูงสุดของตัวผู้ซื้อเองค่ะ

ร้านขายอุปกรณ์ การแพทย์ส่วนสำคัญที่ช่วยให้ระบบสุขภาพของไทย

 

ร้านขายอุปกรณ์ การแพทย์หรือร้านขายเครื่องมือการแพทย์เป็นธุรกิจที่มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนระบบสุขภาพของประเทศ โดยจำหน่ายอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นสำหรับโรงพยาบาล คลินิก สถานพยาบาล และผู้ป่วยที่ต้องการการดูแลเฉพาะทางที่บ้าน ร้านเหล่านี้มีทั้งอุปกรณ์ที่ใช้ในการรักษาพยาบาลและเครื่องมือทางการแพทย์ที่หลากหลาย ตั้งแต่เครื่องมือพื้นฐานอย่างเตียงผู้ป่วย รถเข็น ถุงมือยาง และชุดป้องกันการติดเชื้อ ไปจนถึงเครื่องมือทางการแพทย์ขั้นสูงเช่น เครื่องเอกซเรย์ เครื่องอัลตราซาวนด์ และเครื่องมือผ่าตัด

ในการบริหารจัดการร้านขายอุปกรณ์ การแพทย์ที่ดี ต้องมีการคัดเลือกสินค้าที่มีคุณภาพและได้รับการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ยังต้องมีการจัดเก็บสินค้าให้ถูกต้องและปลอดภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุปกรณ์ที่ต้องใช้การสเตอริไลซ์ ร้านอุปกรณ์การแพทย์ที่ดีควรมีทีมงานที่มีความรู้ทางด้านสินค้าทางการแพทย์เพื่อให้คำแนะนำและข้อมูลที่ถูกต้องแก่ลูกค้า ทั้งนี้ยังควรมีการอัปเดตสินค้าใหม่ๆ และนวัตกรรมทางการแพทย์อยู่เสมอเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป

การให้บริการลูกค้าที่เป็นมิตรและมีความเป็นมืออาชีพนับเป็นหัวใจหลักของธุรกิจนี้ โดยร้านควรมีบริการหลังการขายที่ดี เช่น การรับประกันสินค้า การซ่อมแซม และการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการใช้งานอุปกรณ์ อีกทั้งควรมีระบบการจัดส่งที่รวดเร็วและเชื่อถือได้ เพื่อให้ลูกค้าสามารถได้รับอุปกรณ์ที่ต้องการอย่างทันท่วงทีและมีคุณภาพ

การส่งเสริมความสามารถในการเข้าถึงอุปกรณ์สำหรับคนพิการหรือผู้ที่มีปัญหาสุขภาพเฉพาะทางเป็นอีกหนึ่งหน้าที่ของร้านขายอุปกรณ์ การแพทย์ สินค้าเหล่านี้รวมถึงเก้าอี้วีลแชร์ เครื่องช่วยเดิน และอุปกรณ์สนับสนุนต่างๆ ที่เพิ่มความสามารถในการเคลื่อนไหวและคุณภาพชีวิตให้กับผู้ใช้

เพื่อรองรับความต้องการของตลาดที่กว้างขวางและหลากหลาย ร้านขายอุปกรณ์ การแพทย์ควรมีการจัดหมวดหมู่สินค้าอย่างชัดเจน และมีระบบการค้นหาที่ใช้งานง่ายเพื่อให้ลูกค้าสามารถหาสินค้าที่ต้องการได้โดยไม่ยุ่งยาก การมีเว็บไซต์ออนไลน์ที่มีการจัดทำข้อมูลสินค้าและรายละเอียดที่ครบถ้วน พร้อมทั้งระบบช่วยเหลือออนไลน์ ยังเป็นส่วนที่สำคัญที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถตัดสินใจซื้อสินค้าได้ดีขึ้น

 

คอร์สเรียน SEO ทำให้เว็บไซต์ติดหน้าแรกของ Search Engine

 

SEO หรือ Search Engine Optimization ปัจจุบันมีความสำคัญมากกว่าเดิมและจำเป็นสำหรับผู้ดูแลเว็บทุกคนในการทำความเข้าใจความหมายที่แท้จริงของ SEO รวมถึงศักยภาพที่สร้างขึ้นสำหรับทุกธุรกิจ

ทำไม SEO ถึงมีความสำคัญ?

ในตลาดการแข่งขันในปัจจุบันการตลาด SEO มีความสำคัญมากกว่าที่เคย

Search Engine ให้บริการผู้ใช้หลายล้านคนต่อวัน โดยมองหาคำตอบสำหรับคำถามของพวกเขา หรือหาทางแก้ไขปัญหาของพวกเขา หากคุณมีเว็บไซต์ บล็อก หรือร้านค้าออนไลน์ SEO สามารถช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตและบรรลุวัตถุประสงค์ทางธุรกิจ

SEO มีความสำคัญเนื่องจาก

– ผู้ใช้มีแนวโน้มที่จะคลิก 5 อันดับแรกในหน้าผลลัพธ์ (SERPS) ของ Search Engine มากกว่า ในการใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้ เว็บไซต์ของคุณจะต้องปรากฏในตำแหน่งบนสุด

– SEO ไม่เพียงแต่เกี่ยวกับ Search Engine แต่การทำ SEO ที่ดียังช่วยปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ใช้และการใช้งานเว็บไซต์

– ผู้ใช้เชื่อถือ Search Engine และเว็บไซต์ที่ติดอันดับต้นๆ จะได้รับความเชื่อถือมากที่สุด

– SEO นั้นดีสำหรับการโปรโมตเว็บไซต์ของคุณ ผู้ที่พบเว็บไซต์ของคุณด้วยการค้นหาผ่าน Search Engine มีแนวโน้มที่พวกเค้าเหล่านั้นจะเอาไปโปรโมตต่อบน Facebook, Twitter หรือช่องทางโซเชียลมีเดียอื่นๆ

– SEO มีความสำคัญต่อการทำงานที่ราบรื่นของเว็บไซต์ขนาดใหญ่ เว็บไซต์ที่มีผู้เขียนมากกว่าหนึ่งคนจะได้รับประโยชน์จาก SEO ในทางตรงและทางอ้อม ประโยชน์โดยตรงคือการเพิ่มปริมาณผู้เข้าชมเว็บไซต์จาก Search Engine และผลประโยชน์ทางอ้อมคือการมีกรอบการทำงานร่วมกัน (รายการตรวจสอบ) เพื่อใช้ก่อนการเผยแพร่เนื้อหาบนเว็บไซต์

– SEO สามารถทำให้คุณเป็นต่อในการแข่งขัน หากเว็บไซต์สองแห่งกำลังขายสิ่งเดียวกัน เว็บไซต์ที่ทำ SEO มีแนวโน้มว่าจะมีลูกค้ามากขึ้นและมียอดขายเพิ่มขึ้น

แนะนำหลักสูตร สอน SEO โดย Team Digital ที่จะช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายเหล่านี้

เรียนการตลาดออนไลน์กับสถาบันทีมดิจิทัล

เรียน Digital Marketing กับ Team Digital

สอนขายของออนไลน์ โดย Team Digital

การฝึกอบรมภายในองค์กร โดย Team Digital

เรียน Google AdWords กับ Team Digital

อบรม Facebook Marketing กับ Team Digital

เรียน LINE@ กับ Team Digital

สัมมนา กลยุทธ์ออนไลน์เพื่อการเติบโตแฟรนไชส์อย่างยั่งยืน

วันที่ 18 เดือนตุลาคม 2561

เพิ่มยอดจำหน่าย… เพียงแค่ติดอาวุธออนไลน์ให้โดน

ขอเชื้อเชิญร่วมฟังพูดคุยแบบถามตอบตรงประเด็น สำหรับในการวางกลยุทธการตลาดออนไลน์สำหรับแฟรนไชส์

อ.ธีรศักดิ์ (อ.โอ๊บ) ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการตลาดออนไลน์ 15ปี

– ผู้ที่มีความชำนาญด้านอุปกรณ์ออนไลน์
– การกำหนดวิถีทาง และก็งบประมาณสำหรับเพื่อการทำออนไลน์ อีกทั้งในระยะสั้นและก็ระยะยาว
– การวางส่วนประกอบแล้วก็การพัฒนาเว็บ
– กระบวนการทำ Search Engine Marketing
– การพัฒนาวิถีทาง Social Media Marketing ทั้งยังในส่วน Facebook , IG , Line , Youtube รวมทั้งอื่นๆ
– กระบวนการทำ Content Strategy เพื่อระบุวิถีทางสำหรับเพื่อการสร้าง Content เพื่อเกื้อหนุนแบรนด์ผลิตภัณฑ์ ผ่าน Content Creator ตัวกลาง ได้แก่ Advertorial , Web review, Blogger ฯลฯ